นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV Privacy Policy)

บริษัท อาซาฮี เทค อลูมิเนียม (ประเทศไทย) จำกัด

  บริษัท อาซาฮี เทค อลูมิเนียม (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัท”) ได้ติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เพื่อการดูแลรักษาความปลอดภัยตามอาคารสถานที่ บริเวณโดยรอบ หรือจุดต่างๆ ที่เป็นของบริษัท ซึ่งบุคคลผู้ผ่านเข้า – ออกพื้นที่ดังกล่าว (“ท่าน”) อาจถูกบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือเสียงจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ดังกล่าวได้ ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“ประกาศ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของท่าน รวมถึงวิธีการทั้งหลายที่บริษัทจะใช้ในการเก็บรักษา และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอย่างเหมาะสมตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย แต่ท่านไม่ประสงค์ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ทางบริษัท
  บริษัทอาจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทได้ บริษัทอาจมีการทบทวนประกาศฉบับนี้อยู่เป็นระยะ และอาจปรับปรุงประกาศฉบับนี้เพื่อให้มั่นใจว่า บริษัทมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ท่านสามารถติดตามประกาศฉบับปรับปรุงล่าสุดได้ที่ https://asahitec.co.th/cctv-policy/

1.ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

  บริษัทอาจเก็บรวบรวมและบันทึกภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ซึ่งอาจเป็นทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือเสียง รวมทั้งภาพทรัพย์สิน เช่น ยานพาหนะของท่าน เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารสถานที่ บริเวณโดยรอบ หรือจุดต่างๆ ที่เป็นของบริษัท (“ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด”) ในบางกรณี บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่าน เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้าของท่าน ทั้งนี้ ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้

2.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และดำเนินการใดๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับ เปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก ปรับปรุง หรือเพิ่มข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน เพื่อ “วัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด” ดังต่อไปนี้
  • เพื่อควบคุมการเข้า – ออกพื้นที่อาคาร บริเวณโดยรอบ หรือจุดต่างๆ ที่เป็นของบริษัท เฝ้าระวังการเข้า – ออกพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งเพื่อป้องกันและตรวจสอบการบุกรุกหรือการเข้าไปยังพื้นที่อาคารซึ่งเป็นเขตหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์พื้นฐานของระบบ IT และการปฏิบัติการด้านสารสนเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • เพื่อสอดส่องดูแลและรักษาความปลอดภัยของพนักงาน ผู้รับจ้าง ลูกค้า หรือผู้ที่มาติดต่อ รวมถึงทรัพย์สินโดยรอบและข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท
  • เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น และส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี ของพนักงาน ผู้รับจ้าง ลูกค้า หรือผู้ที่มาติดต่อบริษัท
  • เพื่อป้องกัน และ/หรือเฝ้าระวังการเกิดและตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินของบริษัท พนักงาน ผู้รับจ้าง ลูกค้า หรือผู้ที่มาติดต่อ
  • เพื่อป้องกัน และ/หรือเฝ้าระวังการเกิดการจารกรรมและอาชญากรรม และเป็นหลักฐานในการตรวจสอบอาชญากรรม รวมถึงป้องกันการทุจริตและการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมาย และการดำเนินคดีเมื่อมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอาชญากรรม
  • เพื่อสอดส่องดูแลการปฏิบัติงานของพนักงานที่ปฏิบัติงาน และ/หรือ ลูกค้าที่เข้ารับบริการภายในบริษัท เพื่อรักษาความปลอดภัยและสวัสดิภาพทั้งของตัวท่านเองและของพื้นที่อาคารและทรัพย์สินของบริษัท
  • เพื่อสนับสนุนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์ให้มีประสิทธิภาพ
  • เพื่อสนับสนุนในการสอบสวนหรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส
  • เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิหรือยกขึ้นต่อสู้ในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ คดีแรงงาน
  • เพื่อยืนยันตัวบุคคลและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

  ทั้งนี้ บริษัทจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในที่ที่เห็นได้ง่าย พื้นที่ที่บริษัทจะไม่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้แก่ ห้องพนักงาน ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือพื้นที่อื่นที่กำหนดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนและมีระดับความเป็นส่วนตัวสูงสำหรับพนักงาน ทั้งนี้ ตามที่บริษัทเห็นสมควร

  กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
  บริษัทจะติดตั้งป้ายที่จุดทางเข้า – ออก และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เพื่อให้ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

3.ฐานทางกฎหมาย

  บริษัทจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล โอน และดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับ เปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก ปรับปรุง หรือเพิ่มข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดโดยไม่ได้รับความยินยอม ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้
  • เพื่อรักษาประโยชน์อันจำเป็นต่อชีวิต เป็นการจำเป็นต่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการปกป้องคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาคาร สถานที่ และทรัพย์สินของบริษัทและกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) บริษัทจะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี กับสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในการคุ้มครองข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน นอกจากนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามในการหาขั้นตอนวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมดุลดังกล่าวตามความเหมาะสม
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมการทำงาน บริษัทเห็นว่าการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เป็นมาตรการที่จำเป็นที่จะทำให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวได้

4.บุคคลที่บริษัทแบ่งปันและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  บริษัทจะเก็บข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่เปิดเผย ส่ง และ/หรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใด อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านต่อบุคคลภายนอกที่บริษัทคัดเลือกอย่างระมัดระวังทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ระบุในประกาศฉบับนี้ หรือตามที่กฎหมายกำหนด

บุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่าน รวมถึง
  • บริษัทอื่นในเครือของบริษัท บริษัทอาจเปิดเผย ส่ง และ/หรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านให้แก่บริษัทอื่นในเครือของบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบริษัทอื่นในเครือของบริษัท ในการทำตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
  • บุคคลที่สาม บริษัทอาจเปิดเผย ส่ง และ/หรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านให้แก่หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือศาล รวมทั้งที่ปรึกษาภายนอก เช่น ทนายความ ผู้ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดี เป็นต้น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานดังกล่าวในการสอบสวน หรือดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีแพ่งหรืออาญา
  • ผู้ให้บริการภายนอก บริษัทอาจเปิดเผย ส่ง และ/หรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านให้กับผู้ให้บริการภายนอก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่านหรือของบริษัท

5.การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

  บริษัทไม่มีความประสงค์ในการส่งหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่านไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ดี หากบริษัทจะส่งหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการขั้นตอนดังกล่าวโดยได้รับความยินยอมจากท่าน หรือในฐานที่บริษัทมีสิทธิโดยชอบตามกฎหมาย เช่น เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามข้อสัญญา ทั้งนี้ เท่าที่ได้รับอนุญาตตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  ในกรณีเช่นว่านั้น หากบริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านในการโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่านออกนอกประเทศ และข้อมูลดังกล่าวนั้นถูกโอนไปยังบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งอยู่ในประเทศปลายทางที่ยังไม่มีคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยที่ใช้บังคับในขณะนั้น บริษัทจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่านที่ถูกโอนไปยังบุคคลอื่นนอกประเทศให้เทียบเท่ากับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยที่ใช้บังคับในขณะนั้น

6.การรักษาความปลอดภัย

  บริษัทใช้มาตรการทางด้านองค์กร เทคนิค กายภาพและการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท รวมทั้งข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด จากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือการเปิดเผย ไม่ว่าจะเกิดโดยอุบัติเหตุ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งครอบคลุมถึงการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้การควบคุมของบริษัท ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม การส่งข้อมูลทางระบบอินเทอร์เน็ตหรือระบบจัดเก็บข้อมูลไม่สามารถมีความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์
  ทั้งนี้ บริษัทได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน กล่าวคือ ผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้ จำกัดเพียงพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัย (GA) และพนักงานของบริษัทรักษาความปลอดภัยที่บริษัทว่าจ้าง โดยที่ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ดังกล่าวนั้น บริษัทได้จัดให้มีการกำหนดสิทธิในการอนุญาตให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายให้เข้าข้อมูล และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อจำกัดการเข้าถึงข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด โดยใช้รหัส Password และบริษัทยังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล โดยจัดให้มีการเก็บบันทึกรายชื่อและการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวโดยจะไม่สามารถกระทำการดังกล่าวได้หากไม่ได้รับอนุญาต

7.ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล

  บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่านสูงสุดเป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่มีการบันทึก โดยข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านตามประกาศฉบับนี้จะถูกลบออกจากระบบและบันทึกของบริษัทโดยอัตโนมัติเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บข้อมูลดังกล่าวแล้ว เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นและมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวเป็นระยะเวลายาวขึ้นและบริษัทสามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุทางกฎหมาย เช่น การดำเนินการทางศาล หรือมีเหตุทางวินัย ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับท่านตามประกาศฉบับนี้อาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์

8.สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  เมื่อกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับในประเทศไทยแล้ว หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกบันทึกโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ของบริษัท ท่านอาจจะมีสิทธิต่อไปนี้ตามกฎหมาย ภายใต้เงื่อนไขและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
  • สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
  • สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ
  • สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีอำนาจ

  ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทตามรายละเอียดวิธีการติดต่อบริษัทด้านล่างนี้ เพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิต่างๆ ข้างต้น ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะไม่สามารถมีผลในทันทีได้ โดยบริษัทจะพยายามดำเนินการตามคำขอของท่านในทันทีที่บริษัทสามารถปฏิบัติได้ และในกรณีใดๆ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องได้กำหนดให้ต้องปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวได้ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงเหตุในการไม่ดำเนินการหรือข้อจำกัดในการดำเนินการตามสิทธิของท่าน ทั้งนี้ หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถศึกษาเพิ่มได้ที่นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ของบริษัทที่ https://asahitec.co.th/privacy-policy/

9.วิธีการติดต่อบริษัท

  ในกรณีที่ท่านประสงค์ที่จะบังคับตามสิทธิตามกฎหมายของท่านในขณะที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับแล้วในประเทศไทย หรือท่านมีข้อสงสัย คำถาม หรือข้อร้องเรียนใดๆ เกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ โปรดส่งคำขอมายังบริษัทตามรายละเอียดการติดต่อดังต่อไปนี้

บริษัท อาซาฮี เทค อลูมิเนียม (ประเทศไทย) จำกัด
สถานที่ติดต่อ
  
700/145 หมู่ 5 ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000
ช่องทางการติดต่อ
  โทรศัพท์ : 090-198-6087, 090-198-6088, 090-198-6089
  (วันทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8:00-17:00 น.)